อาหารคนเป็นมะเร็ง ผู้ป่วยควรเลือกทานอย่างไรดี.. ถึงจะดีต่อสุขภาพ

หลาย ๆ คนเมื่อรู้ว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดป่วยด้วยโรคมะเร็งอาจจะรู้สึกจิตตก เครียดจนกระทั่งเกิดอาการซึมเศร้าในที่สุด ซึ่งจริง ๆ แล้ว การเกิดอารมณ์ในแง่ลบเหล่านี้ ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายเลยครับ เพราะอันที่จริงในปัจจุบันโรคมะเร็งนั้น สามารถรักษาให้หายหรือบรรเทาอาการให้ดีขึ้น จนผู้ป่วยสามารถมีอายุยืนยาวได้ทั้งด้วยวิธีทางการแพทย์ทั่วไป และการใช้ภูมิคุ้มกันในตัวเองเพื่อรักษามะเร็ง นอกจากนี้ การเลือกทาน อาหารคนเป็นมะเร็ง นั้น ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ

ซึ่งการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น นอกจากการทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส อารมณ์ดี ไม่เครียด และมีกำลังใจแล้ว การรู้จักเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับคนเป็นมะเร็งก็เป็นอักตัวช่วยชั้นดีที่จะเข้ามาเติมพลังกาย ทำให้รู้สึกมีแรง และเติมสารอาหารที่มีประโยชน์ให้สุขภาพของเราแข็งแรงขึ้นได้

หลักการเลือกทาน อาหารคนเป็นมะเร็ง

1. เลือกทานอาหารที่มีโปรตีนสูง

ผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้น ควรให้ความสำคัญในการเลือกทานโปรตีน (Protein) ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะมีการค้นพบว่าร่างกายของผู้ที่ป่วยจะมีอัตราการสลายของโปรตีนเพิ่มขึ้น ดังนั้น การเติมโปรตีนและกรดอะมิโนจำเป็นต่าง ๆ อย่างเพียงพอจึงช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรง และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ นอกจากนี้ ยังช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอต่าง ๆ ภายในร่างกาย และช่วยรักษาสมดุลน้ำตาลในเลือด เนื้อเยื่อ และเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย รวมไปถึงความเป็นกรดด่างของร่างกายอีกด้วย

ส่วนแหล่งโปรตีนชั้นดีสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้น ได้แก่ เนื้อปลา ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเหลือง ถั่วดำ อัลมอนด์ พืชตระกูลถั่ว และธัญพืชต่าง ๆ

2. รับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง

เนื่องจากผู้ป่วยมักทานอาหารได้ในปริมาณน้อย ทำให้ร่างกายไม่ได้รับพลังงานอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง และอาจเกิดอาการหน้ามืด เวียนหัวได้ ดังนั้น ควรเลือกอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่ย่อยง่าย และมีประโยชน์เพื่อบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงอย่างเหมาะสม

ส่วนแหล่งอาหารที่ให้พลังงานสูง และส่งผลดี สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้น ได้แก่ เนื้อไก่ไม่ติดมัน เนื้อปลา ไข่ ถั่วต่าง ๆ ถั่วดำ อัลมอนด์ ขนมปังโฮลวีต และข้าวกล้อง

3. ผักผลไม้ ควรทานให้ครบ 5 สี

ในแต่ละวันผู้ป่วยมะเร็งควรเลือกทานผัก และผลไม้ให้ครบทั้ง 5 สีทั้งแดง เหลือง ม่วง ขาว และเขียว เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นครบถ้วน แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงผักและผลไม้ ที่มีแป้งมาก และรสหวาน เช่น มันฝรั่ง เผือก ขนุน ข้าวโพด มะม่วง และทุเรียน เป็นต้น

ผักผลไม้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย และช่วยป้องกันการลุกลามของเซลล์มะเร็ง ซึ่งสำหรับผู้ป่วยแล้ว อาหารคนเป็นมะเร็ง ก็อย่าลืมล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุงอาหาร หรือก่อนรับประทานสด ๆ ด้วยนะครับ

4. ทานไขมันดีจากปลา

ไขมันจากปลาก็เป็นอาหารคนเป็นมะเร็ง เป็นไขมันชนิดดี ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 (Omega 3) ซึ่งมีส่วนช่วยลดการอักเสบ และเหมาะกับผู้ป่วยที่มีน้ำหนักน้อย นอกจากนี้ การรับประทานไขมันชนิดดี ยังช่วยลดคลอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไขมันเลว (LDL) ในร่างกายได้อีกด้วย

ไขมันดีจากปลานั้น จะได้จากปลาทะเล ได้แก่ ปลาแซลมอนสีส้ม ปลาทูน่าสีแดง และปลาซาร์ดีน เป็นต้น อย่าลืมทานแบบปรุงสุกเรียบร้อยแล้ว หลีกเลี่ยงการทานแบบดิบ ๆ และควรเลี่ยงการทานไขมันจากหนังหมู หรือเนื้อติดมันด้วยนะครับ เพราะไขมันเหล่านี้สามารถเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งจะยิ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย

5. แบ่งมื้ออาหารอย่างเหมาะสม

ผู้ป่วยควรรับประทาน อาหารคนเป็นมะเร็ง เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียงพอ แต่เนื่องจากอาการป่วยอาจทำให้ทานได้น้อยในแต่ละมื้อ จึงต้องทำการแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ ตลอดวัน โดยจัดเมนูอาหารมื้อใหญ่ในตอนเช้า ส่วนมื้อสาย มื้อเที่ยง มื้อบ่าย และมื้อเย็นควรเป็นมื้อเล็ก ๆ ที่ทานง่าย ย่อยง่ายและอิ่มท้อง วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยทานอาหารได้มากขึ้นครับ

การที่ผู้ป่วยได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และได้รับสารอาหารที่เพียงพอในแต่ละวันจะช่วยให้ร่างกายมีเรี่ยวแรง ไม่อ่อนเพลีย รู้สึกสดชื่น ช่วยลดอาการอักเสบจากการรักษาด้วยวิธีการฉายรังสี ลดความทรมานจากผลข้างเคียงของการรักษา

นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้ป่วยนั้น ทำงานได้ดียิ่งขึ้น มีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวในเลือดเพิ่มขึ้น จนร่างกายสามารถต่อต้านเซลล์มะเร็งได้ด้วยตัวเองอีกด้วยครับ

รู้ข้อดี และแนวทางการทานอาหารคนเป็นมะเร็งแล้ว Boostuplifecenter แนะนำว่าให้นำไปใช้เพื่อทำเมนูอร่อย ๆ ให้ตัวเองหรือคนใกล้ชิดของคุณกันด้วยนะครับ รับรองว่าผู้ป่วยที่ทานอาหารถูกหลักและรับประทานได้เพียงพอในปริมาณที่เหมาะสม จะมีร่างกายแข็งแรงพร้อมสู้มะเร็งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี เป็นกำลังใจให้ทั้งผู้ป่วย และผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยนะครับ หากดูแลตัวเอง และปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด อาการต่าง ๆ ก็จะดีขึ้นตามลำดับครับผม