มะเร็งเต้านม รู้เร็ว หายได้ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

มะเร็งเต้านม เป็นชื่อโรคร้ายที่ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่เรารัก ซึ่งคุณสาว ๆ รู้ไหมว่ามะเร็งเต้านมนั้นยังเป็นโรคที่คร่าชีวิตหญิงไทยเป็นอันดับต้น ๆ อีกด้วย แต่ก่อนที่เราจะไปหวั่นวิตกกับเจ้ามะเร็งร้ายนั้น ในวันนี้ Boostuplifecenter จะพามาทำความรู้จักกับโรคร้ายชนิดนี้กันให้มากขึ้นกัน

โรคมะเร็งเต้านม (Breast cancer) เป็นอีกหนึ่งโรคมะเร็งร้ายที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้หญิงได้สูงมาก โดยสามารถพบในหญิงสาวที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี โดยเฉพาะในกลุ่มหญิงสาวอายุตั้งแต่ 40 ปีจะมีอัตราการพบมะเร็งชนิดนี้มากที่สุด

สาเหตุ มะเร็งเต้านม

อาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้

เพศ

เพศเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม โดยเรามักจะพบโรคนี้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เนื่องจากผู้หญิงมีฮอร์โมนฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเต้านมสูงกว่าผู้ชายนั่นเอง

อายุ

อายุที่เพิ่มมากขึ้นนั้นส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมโดยตรง โดยหญิงสาวอายุ 40-55 ปี มีความเสี่ยงสูงกว่าหญิงสาววัย 20 ปี

พันธุกรรม

จากสถิติแล้วพบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่คนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ มีโอกาสจะเกิดโรคร้ายชนิดนี้สูงกว่าหญิงสาวที่ครอบครัวไม่มีประวัติการป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม

วัยทองมาเยือนช้า มีช่วงอายุของการมีประจำเดือนนานกว่าปกติ มีโอกาสเสี่ยง มะเร็งเต้านม

หญิงสาวที่เริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่ประมาณก่อนอายุ 12 ปี หรือหมดประจำเดือนหลังอายุ 55 ปีนั้น จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมได้ง่ายกว่าปกติ เนื่องจากการได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเป็นระยะเวลานาน

สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมของเราเอง

สิ่งแวดล้อมและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนก็สามารถส่งผลให้เกิดปัจจัยกระตุ้นการเกิดโรคมะเร็งชนิดนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การไม่ออกกำลังกาย การทานอาหารฟาสต์ฟู้ดไขมันสูง ไปจนถึงการทำงานที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดสารเคมี เป็นต้น

ลักษณะมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านม ระยะแรก จะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา แต่เมื่อเซลล์มะเร็งเติบโตขึ้นจนเป็นก้อนเนื้อและเริ่มแพร่กระจาย เราสามารถสังเกตอาการได้ ดังนี้

ระยะแรก : คลำพบก้อนเนื้อบริเวณเต้านมหรือมีก้อนที่รักแร้ ซึ่งเป็นระยะและอาการที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่พบความผิดปกติแล้วจึงมาพบแพทย์มากที่สุด

ระยะสอง : เต้านมมีขนาดหรือรูปร่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เกิดผื่นคันรอบเต้านมที่รักษาแล้วไม่หายขาดโดยไม่ทราบสาเหตุ

ระยะสาม : บริเวณหัวนมบุ๋ม เกิดเป็นแผล มีน้ำเหลืองหรือของเหลวสีคล้ายเลือดไหลออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไหลออกจากเต้านมข้างเดียวและจุดเดียว

ระยะสี่ : ผิวหนังรอบบริเวณเต้านมมีอาการบวม แดง และเป็นผื่นแดง นอกจากนี้อาจเกิดการลอก ตกสะเก็ด หรือเป็นแผล มีอาการคันบริเวณหน้าอก ร่วมกับอาการในระยะอื่นๆ ที่กล่าวมา

ตรวจมะเร็งเต้านม

การตรวจเต้านมสามารถทำได้ทั้งการตรวจเบื้องต้นด้วยตัวเองและการเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ซึ่งการตรวจด้วยตัวเองนั้น เป็นการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะแรกเริ่ม ซึ่งหญิงสาวควรรู้จักวิธีการคลำก้อนเนื้อและหมั่นตรวจหาความผิดปกติด้วยตัวเองเป็นประจำทุกเดือน เริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป โดยการคลำและกดรอบ ๆ บริเวณเต้านมเพื่อหาความผิดปกติ รวมไปถึงการสังเกตรูปร่างและลักษณะของเต้านมตัวเองเป็นประจำเพื่อดูความเปลี่ยนแปลง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจเต้านมด้วยตัวเองที่สุด คือ 5-7 วันหลังมีประจำเดือนวันสุดท้าย ส่วนผู้หญิงวัยทองที่หมดประจำเดือนแล้วสามารถเลือกตรวจเวลาใดก็ได้ตามที่ต้องการ

ส่วนการไปตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลที่คุณสะดวก และควรเข้ารับการตรวจเป็นประจำทุกปี

ระยะของมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านม นั้นมีทั้งหมด 5 ระยะ ดังนี้

• ระยะที่ศูนย์ เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งยังไม่เติบโตมากนัก มีขนาดเล็ก อยู่ในชั้นผิวเนื้อเยื่อเต้านม มีขนาดเล็กและเซลล์มะเร็งยังอยู่เฉพาะในชั้นผิวของเนื้อเยื่อเต้านม หากตรวจพบและทำการรักษาอย่างถูกวิธีจะมีโอกาสรอดชีวิตสูงถึง 95-100%
• ระยะที่หนึ่ง เป็นระยะที่เนื้อร้ายเติบโตขึ้นแต่ยังมีขนาดเล็กไม่เกิน 2 เซนติเมตร ยังไม่มีการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ ในระยะนี้หากทำการรักษาอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยจะมีอัตราการรอดชีวิตสูงถึง 90-100%
• ระยะที่สอง เป็นระยะที่มะเร็งเริ่มมีการลุกลามเข้าไปต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ 1-3 ต่อม แต่ก้อนมะเร็งยังมีขนาดเล็กไม่เกิน 2 เซนติเมตร และใหญ่สุดไม่เกิน 5 เซนติเมตร ในระยะนี้หากทำการรักษาอย่างถูกต้องผู้ป่วยจะมีอัตราการรอดชีวิตประมาณ 85-90%
• ระยะที่สาม ในระยะนี้หากทำการรักษาอย่างถูกต้องผู้ป่วยจะมีอัตราการรอดชีวิตประมาณ 65-70% เป็นระยะที่มะเร็งแพร่ไปยังต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ กระดูกหน้าอก และอาจมีก้อนเนื้อร้ายที่เติบโตและมีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เซนติเมตร
• ระยะที่สี่ เป็นระยะที่มะเร็งได้แพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดและอวัยวะอื่นๆ โดยเฉพาะบริเวณ ปอด สมอง ตับ กระดูก และไขกระดูก ซึ่งหากผู้ป่วยตรวจพบว่าเป็นมะเร็งในระยะนี้ ส่วนใหญ่จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ผู้ป่วยอาจมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่มะเร็งแพร่กระจายไป ส่วนผู้ป่วยที่รอดชีวิตเกิน 5 ปีนั้นมีอัตราประมาณ 0-20%

การรักษา มะเร็งเต้านม

การรักษามะเร็งเต้านม นั้นทำได้หลายวิธี โดยแพทย์จะพิจารณาจากสุขภาพ ความเหมาะสมและความพร้อมของผู้ป่วย โดยปัจจุบันมีวิธีการรักษามะเร็งเต้านม ดังนี้

การผ่าตัด

หากตรวจพบ มะเร็งเต้านม ในระยะแรกก็สามารถทำการผ่าตัดก้อนเนื้อออกมาได้โดยไม่ต้องตัดเต้านม แต่หากตรวจพบในระยะที่มะเร็งเริ่มลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงแล้ว แพทย์อาจตัดเต้านมข้างเดียวหรือสองข้าง โดยจะพิจารณาจากการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งนั่นเอง

รังสีรักษา

วิธีนี้ช่วยทำให้ก้อนเนื้อมะเร็งมีขนาดเล็กลงและช่วยหยุดยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง สามารถใช้ร่วมกับวิธีรักษาอื่น ๆ ได้ แต่ก็มีผลข้างเคียง คือ อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้า อ่อนเพลียและคลื่นไส้ แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ทุเลาลงจนกลับมาเป็นปกติหลังหยุดการใช้รังสีรักษา

เคมีบำบัด

วิธีใช้เคมีบำบัด คือ การให้ผู้ป่วยรับประทานหรือฉีดยาสำหรับฆ่าเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะ เป็นการรักษาที่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายแต่ก็จะค่อยๆ ทุเลาและกลับมาเป็นปกติหลังจบกระบวนการรักษา

ฮอร์โมนรักษา

การใช้ฮอร์โมนรักษา คือ การใช้ยาที่ออกฤทธิ์เพื่อป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนในร่างกายไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งให้เติบโตได้ จึงทำให้เซลล์มะเร็งมีขนาดลดลง นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมซ้ำหลังจบการรักษาด้วยวิธีอื่นมาแล้วได้อีกด้วย

การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้การรักษาแบบธรรมชาติบำบัด โดยอาศัยหลักการทำงานของเม็ดเลือดขาว ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะถูกกระตุ้นและกำจัดส่งแปลกปลอมนั้น ๆ ออกจากร่างกาย

ยารักษาโรคมะเร็งเต้านม

ปัจจุบันมีการคิดค้นยารักษามะเร็งร้ายชนิดนี้ทั้งโดยคนไทยจากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ รวมถึงนักวิจัยในต่างประเทศ ซึ่งหากรับประทานยาตั้งแต่ระยะแรก ๆ ร่วมกับการดูแลสุขภาพและการเข้ารับการตรวจอย่างสม่ำเสมอก็มีโอกาสหายได้ แต่ทั้งนี้ก็อาจมีการพิจารณารักษาร่วมกับวิธีอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนสำหรับผู้ป่วยในระยะ 2-4 อาจต้องใช้วิธีอื่นรักษาจึงจะเห็นผลมากกว่า เพราะยารักษามะเร็งนั้นยังคงต้องได้รับการพัฒนาเรื่องประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

โรคมะเร็งเต้านม อาจฟังดูน่ากลัวสำหรับผู้หญิง แต่ถ้าหากเราหมั่นดูแลตัวเอง เลือกทานอาหารที่ดี ใช้ชีวิตถูกสุขลักษณะ หมั่นตรวจคลำก้อนเนื้อเบื้องต้นอาจใช้วิธีตรวจมะเร็งเต้านมง่าย ๆ ด้วยตนเองเพื่อหาความผิดปกติและเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นประจำ เมือหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น จะได้ปรึกษาแพทย์และทำการรักษาได้ทัน โรคร้ายนี้ก็จะไม่น่ากลัวอย่างที่คุณคิดอีกต่อไป